ยาเสียสาว หรือยาเสียหนุ่ม นับเป็นการนำสารเคมี มาใช้ในทางที่ผิด อาทิ “ยาอัลปราโซแลม” (Alprazolam) รู้จักกันในหมู่นักเสพว่า “สี่คูณร้อย” เป็นยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง จึงมีผู้ที่นำยานี้มาใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด
เราได้ยินคำว่า ยาเสียสาว กันมาหลายครั้ง โดยเฉพาะยาอัลปราโซแลม Alprazolam รู้จักกันในหมู่นักเสพว่าสี่คูณร้อย หรือนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
สารเคมีที่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด โดยผู้ประสงค์ร้ายแอบลักลอบใช้กับเหยื่อ หวังก่ออาชญากรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเพื่อรูดทรัพย์ หรือล่วงละเมิดทางเพศ
สารบัญ
- ยาเสียสาว มีอะไรบ้าง
- คุณสมบัติที่ทำให้ยาเหล่านี้ถูกนำใช้ในทางที่ผิด
- สังเกต ป้องกัน ตัวเองอย่างไร
- รู้จักยาอัลปราโซแลม
- ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่นๆ ที่พบ
- การติดยา
- คำเตือนหรือข้อควรระวัง
ยาเสียสาว มีอะไรบ้าง
สำนักงานคณะกรรมการอาหารยาและยา ให้ความหมาย “ยาเสียสาว” ในที่นี้ คือ สารเคมีที่ถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด โดยผู้ประสงค์ร้ายแอบลักลอบใช้กับเหยื่อ หวังก่ออาชญากรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเพื่อรูดทรัพย์ หรือล่วงละเมิดทางเพศ โดยมักใช้สารเคมี ดังต่อไปนี้
- ยามิดาโซแลม (Midazolam) หรือชื่อการค้า โดมิคุม (Dormicum)
- ยาอัลปราโซแลม (Alprazolam)
- ยาฟลูไนตราซีแปม (Flunitrazepam) หรือชื่อการค้า โรฮิบนอล (Rohypnol)
- สารจีเอชบี (GHB = gamma-hydroxybutyrate)
- ยาเค หรือ เคตามีน (ketamine)
คุณสมบัติที่ทำให้ยาเหล่านี้ถูกนำใช้ในทางที่ผิด
- ผลของยาที่ทำให้เกิดอาการมึนงง ง่วงซึม ไม่มีสติ หรือสลบไปได้ รวมถึงยาบางตัวมีฤทธิ์คลายกังวล หรือทำให้รู้สึกเคลิ้มสุขคล้ายการดื่มแอลกอฮอล์
- ออกฤทธิ์ได้รวดเร็ว ไม่เกิน 30 นาที หลังจากรับประทานยา
- สามารถละลายได้ดีในน้ำ ทำให้มีการนำยาเหล่านี้ไปละลายในเครื่องดื่มต่าง ๆ ให้คนดื่มไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีการผสมยาลงไป ซึ่งหากใส่ไปในเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มการออกฤทธิ์ของยาเหล่านี้
- มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการสูญเสียความทรงจำไปชั่วขณะ จึงอาจทำให้เหยื่อไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
สังเกต ป้องกัน ตัวเองอย่างไร
ยาเหล่านี้อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตหากใช้เกินขนาด เนื่องจากมีฤทธิ์การกดการหายใจ จนเกิดอาการโคม่าเสียชีวิตได้
ดังนั้น เราควรระมัดระวังตัว และเรียนรู้วิธีการที่จะป้องกันตนเอง ไม่ดื่มเครื่องดื่มหรือรับประทานอาหารจากคนแปลกหน้า โดยเฉพาะหากอยู่ในสถานที่ไม่น่าไว้วางใจ
โดยมีอาการเตือนที่บ่งบอกว่าอาจได้รับสารเหล่านี้
- คลื่นไส้อาเจียน มึนงง เดินเซ หายใจลำบาก
- มีอาการคล้ายเมาสุรา แม้ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มไปเพียงเล็กน้อย
รู้จัก “ยาอัลปราโซแลม” (Alprazolam)
สำหรับ ยาเสียตัว อย่าง “ยาอัลปราโซแลม” (Alprazolam) ซึ่งเดิมจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มีประโยชน์ทางการแพทย์
ข้อบ่งใช้คือ บรรเทาหรือรักษาอาการวิตกกังวลและอาการตื่นตระหนก ชื่อทางการค้าที่รู้จัก เช่น ซาแน็กซ์ โซแลม มาโน เป็นต้น
แต่พบว่ามีการนำยานี้ไปเสพร่วมกับยาน้ำแก้ไอ น้ำใบกระท่อมต้ม หรือที่รู้จักกันในหมู่นักเสพว่า “สี่คูณร้อย” นอกจากนี้ ยังมีการนำไปใช้ก่ออาชญากรรม มอมยารูดทรัพย์หรือล่วงละเมิดทางเพศนักท่องเที่ยวตามสถานเริงรมย์ต่างๆ ซึ่งในบางรายถึงกับเสียชีวิต
ดังนั้น อย. จึงได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 2 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง เปลี่ยนแปลงประเภทวัตถุออกฤทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 มีสาระสำคัญคือ การยกระดับการควบคุม
อัลปราโซแลม (Alprazolam) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งห้ามผลิต ขาย นำเข้า ส่งออก ยกเว้นกระทรวงสาธารณสุข หรือผู้ได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบัน อัลปราโซแลม ควบคุมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตามพ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาอื่นๆ ที่พบ
- คลายกล้ามเนื้อลาย (muscle relaxants)
- ต้านอาการชัก (antiepileptics)
- ทำให้สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ (anterograde amnesia)
- ความสามารถในการเรียนรู้ และความจำลดลง
- สมรรถภาพในการทำงานที่ต้องใช้ความชำนาญ หรือการตัดสินใจฉับพลันเสื่อมลง
- เนื่องจากยานี้มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางจึงมีผู้ที่นำยานี้มาใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด เช่นที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เป็นต้น
การติดยา
การใช้ยากลุ่ม benzodiazepines ในขนาดสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการ ติดยาทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งถ้าหยุดยาทันทีจะเกิดอาการขาดยาหรือถอนยา เช่น คลื่นไส้ นอนไม่หลับ มือสั่น หัวใจเต้นเร็ว ซึมเศร้า เป็นโรคจิต หรืออาจถึงกับชักได้
คำเตือนหรือข้อควรระวัง
- อาจทำให้ง่วงซึมไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกล หรือ ในที่สูง
- ห้ามดื่มสุรา หรือสิ่งที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่
- อาจเกิดผลตรงข้ามกับฤทธิ์ของยาที่ให้ (paradoxical reaction)
- อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือด ตับ หรือไตได้
- สตรีมีครรภ์ สตรีระยะให้นมบุตร โรคต้อหิน โรคไมแอส ตีเนียแกรวีส (myasthenia gravis) โรคพอร์ไฟเรีย (porphyria) หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
- ไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน นอกจากแพทย์สั่ง
- หากใช้ร่วมกับยาอื่น เช่นยากดหรือกระตุ้นประสาท ยาคุมกำเนิด ยาต้านฮิสตามีน รวมทั้ง cimetidine ควรปรึกษาแพทย์
- หากมีอาการนอนไม่หลับ ประสาทหลอน พฤติกรรมผิดปกติ กล้ามเนื้อเปลี้ย หรือมีไข้ ควรหยุดใช้ยาทันทีและรีบปรึกษาแพทย์